ภาพแสดงแบบวงจรไฟฟ้าในบ้าน (Electrical Circuit Diagram)

คู่มือการต่อวงจรไฟฟ้าในบ้านเบื้องต้น เพื่อการใช้งานปลอดภัย

การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่อยู่ในทุกกิจวัตรประจำวัน ซึ่งหลายคนอาจรู้จักเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดเป็นอย่างดี แต่อาจไม่ได้ศึกษาลงลึกไปถึงระบบไฟฟ้าภายในบ้าน จึงมักตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ เช่น สวิตช์หลอดไฟใช้ไม่ได้ ปลั๊กช็อต หรือเบรกเกอร์ตัดไฟ ดังนั้น การมีความรู้พื้นฐานและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้าในบ้าน จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถดูแลระบบไฟฟ้าขั้นพื้นฐานภายในบ้านได้สะดวกยิ่งขึ้น และพร้อมใช้งานในระยะยาว

แบบวงจรไฟฟ้าในบ้านคืออะไร ?

แบบวงจรไฟฟ้าในบ้าน (Electrical Circuit Diagram) คือแผนผังที่แสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านเชื่อมต่อกันอย่างไร รวมถึงแสดงตำแหน่งของสายไฟ ปลั๊กไฟ สวิตช์หลอดไฟ และจุดติดตั้งอุปกรณ์สำคัญ เช่น ตู้เบรกเกอร์ โดยแบบวงจรไฟฟ้าจะช่วยให้สามารถติดตั้ง ตรวจสอบ และแก้ไขระบบไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น โดยวงจรไฟฟ้าในบ้านสามารถแบ่งออกเป็นรูปแบบดังต่อไปนี้

  • การต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม เป็นการต่อสายไฟให้อุปกรณ์เรียงต่อกันเป็นแถว โดยมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอุปกรณ์แต่ละตัวตามลำดับ หากอุปกรณ์ตัวใดเสียหาย หรือเกิดขัดข้อง อุปกรณ์ทั้งหมดในสายจะหยุดทำงาน
  • การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน เป็นการต่อให้แต่ละอุปกรณ์ได้รับไฟฟ้าแยกจากกัน ทำให้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดได้อิสระ หากอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งเกิดความเสียหาย ก็จะไม่กระทบต่ออุปกรณ์อื่น

วงจรเดินสายไฟในบ้านมีกี่แบบ ?

การเดินสายไฟในบ้านมีหลายรูปแบบ ซึ่งวงจรที่นิยมมีดังนี้

1. วงจรแยกโหลด (Radial Circuit)

เป็นรูปแบบที่สายไฟจากตู้เซอร์กิตเบรกเกอร์เดินแยกออกไปยังอุปกรณ์แต่ละชิ้น หรือแต่ละห้อง เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว โดยแต่ละสายจะมีเซอร์กิตเบรกเกอร์ป้องกันแยกจากกัน ช่วยให้การจัดการและแก้ไขปัญหาทำได้ง่าย ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปในบ้านพักอาศัย

2. วงจรวงแหวน (Ring Circuit)

เป็นการเดินสายไฟเป็นวงกลม ซึ่งจะช่วยลดโหลดกระแสในแต่ละจุด เพราะสามารถไหลได้ทั้งสองทิศทาง นิยมใช้ในอาคารขนาดใหญ่ หรือพื้นที่ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าหนาแน่น

3. วงจรควบคุมหลายจุด (Multi-Way Switching)

ใช้ในระบบควบคุมแสงสว่างที่ต้องการเปิด-ปิดไฟจากหลายตำแหน่ง เช่น ไฟบันได ที่สามารถเปิด-ปิดได้ทั้งจากชั้นล่างและชั้นบน หรือไฟในห้องโถงยาวที่มีสวิตช์หลายจุด

อุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อวงจรไฟฟ้าในบ้าน

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อวงจรไฟฟ้าในบ้านจะช่วยให้สามารถเลือกซื้อ ติดตั้ง รวมถึงแก้ไขได้อย่างถูกวิธี เมื่อเกิดปัญหา

1. สายไฟ

เป็นหัวใจหลักของระบบไฟฟ้า ใช้สำหรับส่งกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไปยังอุปกรณ์อื่น โดยต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดกระแสที่ใช้งาน สายไฟที่ใช้ในบ้านโดยทั่วไปจะมีขนาด 1.5, 2.5, และ 4.0 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งขนาดที่ใหญ่กว่าจะรับกระแสได้มากกว่า

2. ฟิวส์

ทำหน้าที่ป้องกันระบบไฟฟ้าจากกระแสไฟฟ้าเกิน โดยจะตัดวงจรเมื่อมีกระแสมากกว่าที่กำหนด ซึ่งฟิวส์ทำจากลวดเส้นเล็กที่มีความพิเศษในการทนทานต่อกระแสไฟฟ้า แต่จะหลอมละลายได้ง่ายหากมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากเกินไป เมื่อฟิวส์ขาดจะทำให้วงจรไฟฟ้าหยุดไหลและต้องเปลี่ยนใหม่ทันที

3. สะพานไฟ หรือคัทเอาท์

มีหน้าที่หลักในการเป็นสวิตช์สำหรับตัดและต่อวงจรไฟฟ้าด้วยมือ (Manual Disconnection) เพื่อความปลอดภัยในการซ่อมบำรุง หรือเมื่อเกิดเหตุผิดปกติในระบบไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร หรือกระแสไฟฟ้าเกิน โดยภายในคัทเอาท์จะมีฟิวส์ติดตั้งอยู่ เมื่อฟิวส์ขาดเพราะกระแสเกินก็จะต้องตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อเปลี่ยนเส้นฟิวส์ใหม่ แต่ในปัจจุบันจะนิยมใช้ตู้เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่สามารถตัดวงจรได้โดยอัตโนมัติและรีเซ็ตเพื่อใช้งานใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์

4. สวิตช์

ใช้ควบคุมการเปิด-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า มีหลายประเภท เช่น สวิตช์เดี่ยว สวิตช์สามทาง หรือสวิตช์ดิมเมอร์

5. เต้ารับกับเต้าเสียบ

ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้า ในปัจจุบันนิยมใช้เต้ารับที่มีช่องสายดินเพื่อความปลอดภัย

ข้อควรระวังในการต่อวงจรไฟฟ้าในบ้าน

เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของวงจรเดินสายไฟในบ้าน ควรปฏิบัติตามข้อควรระวัง ดังนี้

  • ห้ามใช้สายไฟที่ชำรุดหรือเก่า สายไฟที่มีฉนวนหุ้มแตก หรือสึกหรอสามารถเป็นสาเหตุของไฟช็อตและไฟไหม้ได้ จึงควรตรวจสอบสภาพสายไฟเป็นระยะ
  • ไม่ควรต่อวงจรแบบพ่วงหลายจุดเกินไป การต่อปลั๊กพ่วงหลายชั้นอาจทำให้เกิดความร้อนสูงและอาจเป็นสาเหตุของไฟไหม้
  • ควรมีสายดินในวงจรทุกชุด สายดิน (Earth Wire) จะช่วยป้องกันไฟฟ้าดูดและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งาน
  • ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว เช่น RCCB (Residual Current Circuit Breaker) หรือ RCBO (Residual Current Breaker with Overcurrent Protection) ซึ่งจะช่วยตัดไฟเมื่อเกิดไฟรั่ว
  • ใช้ช่างไฟที่มีใบอนุญาต สำหรับงานที่ซับซ้อนหรือเกี่ยวข้องกับระบบหลัก ควรใช้ช่างไฟที่มีใบอนุญาตเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

คนในบ้านกำลังใช้งานตู้เซอร์กิตเบรกเกอร์ หรือ Main Distribution Board (MDB)

ตู้เซอร์กิตเบรกเกอร์ “ศูนย์กลาง” ของระบบวงจรไฟฟ้าในบ้าน

ตู้เซอร์กิตเบรกเกอร์ หรือ Main Distribution Board (MDB) ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบไฟฟ้าทั้งหลัง โดยทำหน้าที่สำคัญดังนี้

  • ควบคุมวงจรไฟฟ้าทั้งบ้าน โดยทำหน้าที่เป็นจุดกระจายกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายหลักไปยังวงจรย่อยภายในบ้าน
  • แยกวงจรออกเป็นโซน เช่น ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ การแยกโซนช่วยให้สามารถจัดการและบำรุงรักษาได้สะดวก รวมถึงการประหยัดพลังงาน
  • ติดตั้งเบรกเกอร์ย่อย เช่น MCB (Miniature Circuit Breaker), RCCB (Residual Current Circuit Breaker) ที่ช่วยตัดไฟเมื่อเกิดอันตราย เช่น กระแสเกิน หรือไฟรั่ว
  • ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย และช่วยให้การแก้ปัญหาเมื่อเกิดไฟดับทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

การรู้จักแบบวงจรไฟฟ้าในบ้านที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของวิศวกรรมไฟฟ้า แต่คือเรื่องของความปลอดภัย หากมีแผนในการต่อเติม หรือติดตั้งไฟฟ้าใหม่ อย่าลืมศึกษาวงจรให้ดีและเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน ขอแนะนำ ตู้เซอร์กิตเบรกเกอร์คุณภาพสูง จาก “ร้านไฟฟ้า” ที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม มีให้เลือกทั้งแบบบ้านพักอาศัยและอาคารสำนักงาน พร้อมให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าตลอดการใช้งาน มั่นใจได้ทั้งคุณภาพ ราคา และบริการหลังการขายระดับมืออาชีพ ให้การรับประกันนานสูงสุด 2 ปี จัดส่งฟรี ทันที ! เมื่อมียอดชำระครบ 5,000 บาทขึ้นไปหากต้องการสั่งซื้อจำนวนมาก สามารถขอใบเสนอราคาได้ทันที

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง

  1. วงจรไฟฟ้าในบ้าน. สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/33974
ใส่ความเห็น

Shopping cart

0
image/svg+xml

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

Continue Shopping